ประเด็นคือ – “หมอแสงชัย” ยังคงเดินหน้าแจกสมุนไพรต้านมะเร็งต่อ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ขณะที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแจกให้เร็วขึ้น เจ้าตัวเผย มี.ค. 61รู้ผลว่าจะอยู่หรือจะไป
วันที่ 27 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 61 ผู้ป่วยโรคมะเร็งจะเดินทางไปรับยาสมุนไพรจากนายแสงชัย หรือหมอแสง แหเลิศตระกูล ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดปราจีนบุรี ในเดือนนี้ ทางทีมงานหมอแสงพร้อมตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี จึงได้ร่วมกันเปลี่ยนวิธีการในการรับสมุนไพรแบบใหม่
โดยให้ผู้ป่วยหรือญาติที่เดินทางไปที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ที่ประสงค์จะรับสมุนไพร ต้องแสดงหลักฐานว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง จากนั้นผู้ป่วยหรือญาติที่จะรับสมุนไพรต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนให้ทางตำรวจเสียบเครื่องอ่านบัตรประชาชน โดยโปรแกรมจะอ่านข้อมูลจากบัตรเข้าในโปรแกรมได้ทั้งหมด พร้อมรูปผู้ที่รับสมุนไพร โดยตำรวจจะลงข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมสั่งปริ้นต์ผู้รับสมุนไพรประจำวันออกมา ภายในเวลาไม่เกิน 1 นาที
ข้อมูลที่ผ่านเครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชนจะไปประมวลผลเก็บไว้ในฐานข้อมูลทั้งหมดที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี และที่บ้านนายแสงชัย เมื่อถึงวันรับสมุนไพร โดยทางหมอแสงกำหนดให้ผู้ป่วยรายเก่าประมาณ 10,000 ราย สามารถเดินทางไปรับสมุนไพรได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 6 ม.ค. 61 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 7 ม.ค. 61 และจะเริ่มเรียกผู้ป่วยรายใหม่ คาดว่าจะมีอีกประมาณ 5,000 ราย ทำการรับสมุนไพรได้ทันที
ในขั้นตอนตรวจหลักฐานและรับสมุนไพรที่บ้านหมอแสง ทางทีมงานก็จะรับบัตรประจำตัวประชาชนผู้ที่มารับสมุนไพรเข้าเครื่องอ่าน หากข้อมูลตรงตามที่ปรากฏในฐานข้อมูล ทางหมอแสงก็จะแจกสมุนไพรให้ทันที
นายแสงชัย หรือหมอแสง แหเลิศตระกูล
การเปลี่ยนแปลงการลงข้อมูลประจำวันครั้ง จะทำให้ตรวจหลักฐานจากการอ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้เร็วกว่าสมาร์ทการ์ดที่ทำไว้เดิม และในเดือนนี้ นายแสงชัยคาดว่าจะมีผู้เดินทางมาขอรับสมุนไพรประมาณ 20,000 ราย จึงต้องให้ทีมงานเร่งทำการผลิตสมุนไพรให้เพียงพอกับจำนวนที่คาดการณ์ไว้
ส่วนความคืบหน้าด้านการร่วมวิจัยยาต้านมะเร็ง หมอแสงเปิดเผยว่า ตอนนี้ยังเงียบอยู่ โดยเดือนมีนาคม 2561 จะเป็นเดือนชี้ชะตาที่รู้ผลว่า ต่อไปให้ประชาชนมารับยาที่หมอแสงหรือที่กระทรวงสาธารณสุข
The post “หมอแสง” ปรับรูปแบบแจกสมุนไพรต้านมะเร็งให้เร็วขึ้น เผย มี.ค. 61 รู้ผลอยู่หรือไป appeared first on Workpoint News.
ที่มา : https://workpointnews.com/