แนวทางการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อความโปร่งใสของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแก่งหางแมว

  1. การบันทึกขั้นตอนรายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง
การบันทึกขั้นตอนรายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ดำเนินการตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดยจัดให้มีการบันทึกรายงานผลการพิจารณารายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง  เพื่อประโยชน์ในการตรวจดูข้อมูลเมื่อมีการร้องขอประกอบด้วย
 
 
 
  1. ชื่อโครงการ/รายการที่ได้ซื้อจ้างแล้ว
  2. วงเงินที่ได้รับจัดซื้อจัดจ้าง
  3. ระยะเวลาที่ได้จัดซื้อจัดจ้าง
  4. วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง
มีการรายงานผลการดำเนินการตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีและจัดเก็บอย่างเป็นระบบโดยแสดงรายละเอียดครบถ้วน 4 รายการ ได้แก่ (1) ชื่อโครงการ/รายการที่ได้ซื้อจ้างแล้ว (2) วงเงินที่ได้จัดซื้อจัดจ้าง (3) ระยะเวลาที่ได้รับจัดซื้อจัดจ้าง (4) วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง โดยดำเนินการรายงานผลตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี งบลงทุนทุก 3 เดือนและงบดำเนินงานทุก 6 เดือน
  1. การป้องกันผู้มีหน้าที่ดำเนินการในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญา
ปฏิบัติตามหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ด่วนที่ 0217/ว3001 ลงวันที่  16  ตุลาคม 2560 เรื่องขอส่งประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยแนวทางปฏิบัติงานเพื่อตรวจสอบบุคลากรในหน่วยงานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 และแบบแสดงความบริสุทธิ์ใจในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานในการเปิดเผยข้อมูลความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่และผู้ตรวจรับพัสดุ จำนวน 2 ฉบับ คือวงเงินเล็กน้อยไม่เกิน 100,000 บาท และวงเงินเกิน 100,000 บาท
  1. วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง
มีการดำเนินการตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ตามมาตรา 55 ข้อ 28 แบ่งเป็น 3 วิธี
  1.  วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
คือ  เชิญชวนให้ผู้ประกอบการทั่วไปตามเงื่อนไขที่กำหนดเข้ายื่นข้อเสนอ หลักการ ให้เลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปก่อน  เว้นแต่จะเข้าเงื่อนไขวิธีคัดเลือก  วิธีเฉพาะเจาะจง (มาตรา 56) ยกเว้นหน่วยงานของรัฐในต่างประเทศจะใช้วิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงโดยไม่ใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปก่อนก็ได้ (พ.ร.บ.ม.56 วรรค3) จำนวน 3 วิธี ดังนี้
  1. วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) จัดซื้อจัดจ้างวงเงิน 5 แสนบาท สินค้าไม่ซับซ้อนตาที่กรมบัญชีกลางกำหนด (ข้อ30) ขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้าง มีดังนี้
    1. เจ้าหน้าที่จัดทำเอกสารซื้อจ้างพร้อมประกาศเชิญชวนตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดข้อ (19)
    2. หน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซื้อขอจ้างตามข้อ 2.2 แล้วให้เผยแพร่ประกาศเอกสารจัดซื้อจัดจ้างในระบบกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงานของรัฐไม่น้อยกว่า 3 วันทำการและให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ ปิดประกาศของรัฐ (ข้อ 15)
    3. ให้กรมบัญชีกลางส่งประกาศและเอกสารซื้อจ้างไปยังผู้ประกอบการที่ได้ลงทะเบียนจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ข้อ36)
    4. ถึงกำหนดวันเสนอราคาได้ดำเนินการดังนี้
      1. กรณีซื้อจ้างที่มีวงเงินเกิน 5 แสน แต่ไม่เกิน 5 ล้าน ให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์และให้เสนอราคาภายในเวลากำหนด โดยเสนอได้ครั้งเดียว
      2. กรณี ซื้อจ้างที่มีวงเงินเกิน 5 ล้าน ให้ผู้ประกอบการเข้าสู้ตลาดโดยต้องลงทะเบียนก่อนเริ่มกระบวนการเสนอราคา ภายใน 15 นาที พร้อมทั้งให้ทำการทดสอบระบบเป็นเวลา 15 นาที และให้เสนอราคาภายใน  30 นาที กี่ครั้งก็ได้ (ข้อ37)
 
  1. เมื่อสิ้นสุดการเสนอราคา ให้เจ้าหน้าที่พิจารณาผู้เสนอราคาต่ำสุดหากเสนอราคารายเดียวให้หน่วยงานพิจารณารับราคานั้นได้  หากไม่มีผู้เสนอราคา ให้ดำเนินการใหม่ หรือ ใช้วิธีการคัดเลือก หรือ วิธีเฉพาะเจาะจง (ข้อ 38)
  2. กรณีราคาของผู้เสนอราคาต่ำสุด สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อ
    1. ต่อรองราคาผ่านระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
    2. หากดำเนินการตาม (1) ไม่ได้ผล  ให้แจ้งผู้เสนอราคาที่เสนอราคาถูกต้องทุกรายทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เสนอราคาพร้อมกันผ่านระบบ
  3. เมื่อได้ผู้ชนะการเสนอราคาแล้ว ให้เจ้าหน้าที่จัดพิมพ์ใบเสนอราคาและเอกสารการเสนอราคาของผู้เสนอราคารายนั้น 1 ชุด และลงลายมือชื่อกำกับไว้และเอกสารทุกแผ่น (ข้อ40)
  4. ให้รายงานผลพิจารณาและความเห็นพร้อมเอกสารทั้งหมดต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือหัวหน้าเจ้าหน้าที่  เพื่อให้ความเห็นชอบ (ข้อ41)
  5. เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้ประกาศผลผู้ชนะในระบบกรมบัญชีกลาง และหน่วยงานของรัฐและปิดประกาศไว้เปิดเผยที่ปิดประกาศของหน่วยงานและให้แจ้งผู้เสนอทุกรายผ่านทางอีเมล์ (ข้อ42)
  6. วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จัดซื้อจัดจ้างวงเงินเกิน 5 แสนบาท สินค้าซับซ้อนมีเทคนิคเฉพาะ (ข้อ 31) มีขั้นตอนดังนี้
    1. ให้เจ้าหน้าที่จัดทำเอกสารซื้อ จ้าง พร้อมประกาศเชิญชวน ตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (ข้อ 43)
    2. เมื่อผู้ที่รับผิดชอบจัดทำร่างขอบเขตของงานและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามข้อ 2.2 ได้จัดทำร่างเสร็จแล้ว  ให้เจ้าหน้าที่ทำรายงานขอซื้อขอจ้างตามข้อ 2.2 พร้อมนำร่างขอบเขตของงานหรือคุณลักษณะเฉพาะเสนอหัวหน้าหน่วยงานเห็นชอบ และอาจจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นว่าขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ จากผู้ประกอบการก่อนดังนี้
      1. กรณีวงเงินเกิน 5 แสน แต่ไม่เกิน 5 ล้าน ให้อยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานขอบรัฐที่จะเผยแพร่เพื่อวิจารณ์หรือไม่ก็ได้
      2. กรณีวงเงินเกิน 5 ล้าน ให้หน่วยงานของรัฐ นำร่างเผยแพร่วิจารณ์จากผู้ประกอบการ (ข้อ 45) ในระบบกรมบัญชีกลางและของหน่วยงาน เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ (ข้อ 46)
    3. กรณีมีวิจารณ์ให้เจ้าหน้าที่ผู้จัดทำร่างขอบเขตของงานและคุณลักษณะเฉพาะพิจารณาว่าควรปรับปรุงแก้ไขหรือไม่
  •  หากเห็นว่าควรปรับปรุง ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นชอบแล้วเผยแพร่วิจารณ์ใหม่ไม่น้อยกว่า 3 วันทำการติดต่อกัน
  • หากเห็นว่าไม่ควรปรับปรุง ให้จัดทำรายงานพร้อมความเห็นเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นชอบแล้วแจ้งผู้วิจารณ์ทุกรายทราบเป็นหนังสือ
    1. ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้าง ในระบบกรมบัญชีกลางและหน่วยงานของรัฐ  ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยให้หรือขายเอกสารไปพร้อมกันในราคาที่สมควรที่จ่ายไป (ข้อ 49)
 
  1. การเผยแพร่เอกสารเชิญชวนให้คำนึงถึงผู้ประกอบการ จัดเตรียมเอกสารดังนี้
  1.  เกิน 5 แสน ไม่เกิน  5 ล้าน ไม่น้อยกว่า  5 วันทำการ
  2. เกิน  5 ล้าน  ไม่เกิน 10 ล้าน ไม่น้อยกว่า 10 วันทำการ
  3. เกิน 10 ล้าน ไม่เกิน 50 ล้าน ไม่น้อยกว่า  12  วันทำการ
  4. เกิน  50 ล้าน ไม่น้อยกว่า  20 วันทำการ (ข้อ 51)
    1. หากหน่วยงานของรัฐได้กำหนดรายละเอียดของประกาศหรือเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือขอบเขตของงาน  หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนในสาระสำคัญให้หน่วยงานของรัฐยกเลิกการดำเนินการซื้อหรือจ้างครั้งนั้นแล้ว ดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง (ข้อ 53)
    2. เมื่อสิ้นสุดการเสนอราคาให้คณะกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินการดังนี้
  1. จัดพิมพ์  ใบเสนอราคาและเอกสารที่เสนอผ่านระบบ
  2. ตรวจสอบผลประโยชน์ร่วมกัน
  3. ตรวจสอบคัดเลือกพัสดุ หรือคุณสมบัติจัดเรียงลำดับไว้ไม่เกิน 3 ราย
  4. จัดทำรายงานผลการพิจารณา  และความเห็น (ข้อ 55)
    1. กรณีมีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว หรือถูกต้องเพียงรายเดียวให้เสนอยกเลิกแต่ถ้าคณะกรรมการพิจารณาผล ฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลสมควรไม่ต้องยกเลิกก็ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐต่อไป  กรณีไม่มีผู้เสนอราคา หรือเสนอแต่ไม่มีผู้ถูกต้องตามเงื่อนไขให้ยกเลิกแล้วดำเนินการใหม่  หรือหากเห็นว่าการดำเนินการต่อไปไม่ได้ผลดี อาจจะใช้วิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจง (ข้อ 56)
    2. การต่อรองราคากรณีเสนอราคาเกินวงเงิน  กรณีหน่วยงานเลือกใช้เกณฑ์ราคา
  1.  ให้แจ้งผู้เสนอราคากรณีเสนอราคาเกินวงเงิน  กรณีหน่วยงานเลือกใช้เกณฑ์ราคา
  2. ถ้าดำเนินการตาม (1) ไม่ได้ผล ให้แจ้งผู้เสนอราคาทุกรายที่คณะกรรมการเห็นสมควรซื้อจ้างผ่านระบบเพื่อให้เสนอราคาใหม่พร้อมกัน โดยยื่นใบเสนอราคาผ่านระบบ
  3. ถ้าดำเนินตาม (2) ไม่เป็นผล ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าควรยกเลิก ของเงินเพิ่ม (ข้อ 57)
    1. การต่อรองราคากรณีหน่วยงานของรัฐเลือกใช้เกณฑ์ราคาประกอบดับเกณฑ์อื่นเมื่อปรากฏว่าราคาของผู้ได้คะแนนสูง สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ให้คณะกรรมการแจ้งผู้เสนอรายที่เห็นสมควรซื้อจ้างผ่านระบบเพื่อต่อรองให้ต่ำสุด  โดยยื่นใบเสนอผ่านระบบหากดำเนินการไม่ได้ผล ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ว่าจะยกเลิกหรือขอเงินเพิ่ม (ข้อ 58)
    2. เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณา และผู้มีอำนาจสั่งซื้อสั่งจ้างอนุมัติแล้วให้แจ้งผลผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบ และประกาศผลในระบบกรมบัญชีกลาง และปิดประกาศเปิดเผยในสถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐ (ข้อ 59)
  4. วิธีสอบราคา  กรณีวงเงินเกิน 5 แสน แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท และพื้นที่ดังกล่าวมีข้อจำกัดในการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต  ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามวิธี วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market)และวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีขั้นตอนดังนี้
    1. ให้เจ้าหน้าที่จัดทำเอกสารซื้อจ้าง  พร้อมประกาศเชิญชวนตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (ข้อ 61)
    2. หน่วยงานของรัฐอาจนำร่างประกาศและเอกสารไม่เผยแพร่วิจารณ์ก็ได้ โดยให้นำวิธีเผยแพร่วิจารณ์ e-bidding  มาใช้บังคับโดยอนุโลม (ข้อ 62)
    3. เมื่อหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซื้อหรือขอจ้างตามข้อ 22 และร่างเอกสารสอบราคาแล้วให้เผยแพร่เอกสารสอบราคาในระบบกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงานไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ
    4. การยื่นเสนอราคา ให้ผู้เสนอราคา ยื่นซองถึงประธานคณะกรรมารพิจารณาผลการสอบราคาพร้อมเอกสาร ให้เจ้าหน้าที่ลงรับพร้อมระบุ วันเวลารับซอง โดยไม่เปิดซอง (ข้อ 68)
    5. เมื่อถึงเวลาเปิดซองสอบราคาให้คณะกรรมการดำเนินการดังนี้
  1.  เปิดซองใบเสนอราคา ตรวจเอกสารหลักฐานแล้วให้คณะกรรมการเซ็นชื่อกำกับ
  2. ตรวจการมีผลประโยชน์ร่วมกัน และเอกสารต่าง ๆ ตามเงื่อนไขในประกาศ
  3. พิจารณาผู้เสนอราคาถูกต้อง และเสนอราคาต่ำสุดหรือได้คะแนนสูงสุด ไม่เกิน 3 ราย (ข้อ 70 )
    1. กรณีมีผู้เสนอราคารายเดียวหรือถูกต้องเพียงรายเดียวให้พิจารณายกเลิกการเสนอราคาครั้งนั้นแต่ถ้าคณะกรรมการพิจารณาผลสอบราคามีเหตุผลพอสมควรที่จะดำเนินการต่อไปโดยไม่ยกเลิกก็ได้ กรณีไม่มีผู้เสนอราคาหรือไม่มีผู้เสนอราคาถูกต้อง ให้ยกเลิกการสอบราคา (ข้อ 71)
    2. การต่อรองราคา กรณีเสนอราคาสูงกว่าวงเงิน
  1.  ให้แจ้งผู้เสนอราคาที่คณะกรรมการเห็นควรซื้อ จ้าง แล้วต่อรอง หากสูงกว่าไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินและเห็นว่าเป็นราคาเหมาะสม ก็เสนอซื้อหรือจ้างต่อไป
  2. หากไม่ได้ผลตาม (1) ให้แจ้งผู้เสนอราคาทุกรายที่เห็นสมควรซื้อจ้าง เสนอราคาใหม่ พร้อมกันภายในวันเวลาที่กำหนด
  3. ถ้าดำเนินการตาม (2) ให้แจ้งผู้เสนอราคาทุกรายที่เห็นสมควรซื้อจ้าง เสนอราคาใหม่ พร้อมกันภายในวันเวลาที่กำหนด
    1. เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบผลการพิจารณาและอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างแล้วให้ประกาศผู้ชนะในระบบกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงานของรัฐ  และประกาศโดยเปิดเผย ณ ที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐ (ข้อ 72)
  1. วิธีคัดเลือก
คือ เชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 3 รายให้เข้ายื่นข้อเสนอเว้นแต่ มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามกำหนดน้อยกว่า 3 ราย มีขั้นตอนดังนี้
2.1  เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานขอซื้อขอจ้างแล้ว ให้คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก ดำเนินการดังต่อไปนี้
      (1)  จัดทำหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐไม่น้อยกว่า 3 ราย เว้นแต่ในงานนั้นมีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดน้อยกว่า 3 รายให้เข้ายื่นข้อเสนอ  ให้คำนึงถึงการไมมีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ที่เข้ายื่นข้อเสนอด้วย
      (2)  การยื่นข้อเสนอต้องยื่นข้อเสนอผนึกซองจ่าหน้าซองถึงประธานคณะกรรมการแล้วให้เจ้าหน้าที่ลงรับโดยไม่เปิดซอง  พร้อมระบุวันเวลารับซอง
      (3)  เมื่อถึงกำหนดวัน เวลาในการยื่นข้อเสนอ ให้รับซองข้อเสนอของผู้ประกอบการพร้อมจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มายื่นข้อเสนอ เมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นซองข้อเสนอ ห้ามรับเอกสารหลักฐานต่าง       ๆ และพัสดุตัวอย่าง ตามเงื่อนไขที่กำหนดในหนังสือเชิญชวนเพิ่มเติมจากผู้ยื่นข้อเสนอ เว้นแต่ กรณีการซื้อหรือจ้างใดมีรายละเอียดที่มีความจำเป็นโดยสภาพของการซื้อหรือจ้างที่จะต้องให้ผู้ยื่นข้อเสนอนำตัวอย่างพัสดุมาแสดงเพื่อทดลองหรือทดสอบหรือนำเสนองานหรือเอกสารหรือรายละเอียดที่กำหนดให้จัดส่งภายหลังจากวันยื่นข้อเสนอ
      (4)  เมื่อกำหนดวัน เวลา ในการเปิดซองข้อเสนอ ให้เปิดซองข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายพร้อมจัดทำบัญชีรายการเอกสารหลักฐานต่างๆ ของผู้ยื่นข้อเสนอ และให้กรรมการทุกคนลงลายมือชื่อกำกับไว้ในใบเสนอราคาและเอกสารประกอบเสนอราคาทุกแผ่น
      (5)  ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ตรวจสอบผลประโยชน์ร่วมกัน  ใบเสนอราคาและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้วคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือเชิญชวน
      (6)  พิจารณาคัดเลือกพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างของผู้ยื่นข้อเสนอ ที่ถูกต้องตาม (5) ที่มีคุณภาพและคุณสมบัติเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ  แล้วให้เสนอซื้อหรือจ้างจากผู้ยื่นข้อเสนอรายที่คัดเลือกไว้ ซึ่งเสนอราคาต่ำสุด หรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุด แล้วแต่กรณีตามเกณฑ์การพิจารณาผลที่หน่วยงานของรัฐกำหนดไว้ในหนังสือเชิญชวน
              - ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอรายที่คัดเลือกไว้ซึ่งเสนอราคาต่ำสุด หรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดไม่ยอมเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงกับหน่วยงานของรัฐในเวลาที่กำหนด ให้คณะกรรมการพิจารณาผู้ที่เสนอราคาต่ำรายถัดไป หรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงในลำดับถัดไป (ข้อ 74)
              - ในกรณีที่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอหรือข้อเสนอนั้นไม่ได้รับการคัดเลือก ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจว่าสมควรยกเลิกการซื้อหรือจ้างเพื่อดำเนินการใหม่หรือจะสั่งให้ดำเนินการโดยวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 (2) (ก) ก็ได้ (ข้อ75)
      (7)  จัดทำรายงานผลการพิจารณาเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ (ข้อ 74)
      2.2  กรณีมีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียวหรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายรายแต่ผ่านการคัดเลือกเพียงรายเดียว  หากมีคุณสมบัติตรงเงื่อนไขที่กำหนดในหนังสือเชิญชวน ก็ให้คณะกรรมการต่อรองราคากับผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น  แล้วเสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐต่อไป (ข้อ 75)
      2.3  การต่อรองราคา  หากปรากฏว่าราคาของผู้ที่ชนะการซื้อหรือจ้างหรือที่ได้รับการคัดเลือกยังสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ให้คณะกรรมการดำเนินการดังนี้
      (1)  ให้ต่อรองราคากับผู้ยื่นเสนอราคารายนั้นให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากผู้ที่ยื่นข้อเสนอรายนั้นยอมลดราคา ราคาที่เสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง  หรือต่อรองแล้วไม่ยอมลดราคาอีก แต่ส่วนสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้างนั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม ก็ให้เสนอซื้อหรือจ้างผู้ที่ยื่นข้อเสนอรายนั้น
      (2)  ถ้าดำเนินการตาม (1) แล้วไม่ได้ผล ให้แจ้งผู้ที่เสนอราคาทุกรายที่คณะกรรมการเห็นสมควรซื้อหรือจ้าง เพื่อเสนอราคาใหม่พร้อมกันโดยยื่นใบเสนอราคา ภายในกำหนดระยะเวลาอันสมควร หากรายใดไม่ยื่นใบเสนอราคา ให้ถือว่ารายนั้นยืนราคาตามที่เสนอไว้เดิม  หากผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดในการเสนอราคาครั้งนี้เสนอราคาไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกิดร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม  ก็ให้เสนอซื้อหรือจ้างจากผู้ที่เสนอราคารายนั้น
      (3)  ถ้าดำเนินการตาม (2) แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อประกอบการใช้ดุลยพินิจว่าจะสมควรลดรายการ ลดจำนวน หรือลดเนื้องานหรือของเงินเพิ่มเติมที่ไม่ก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ที่เสนอราคา หรือยกเลิกการซื้อหรือจ้างเพื่อดำเนินการใหม่หรือจะสั่งให้ดำเนินการโดยวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 (2) (ก) ก็ได้ (ข้อ 76)
      2.4  เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณาตามข้อ 74(7)และผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างแล้ว  ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศผลผู้ชนะการสอบราคาในระบบเครือข่ายของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการกรมบัญชีกลางกำหนดและให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนั้น  แจ้งผู้เสนอทุกรายทราบ (ข้อ 77)
3. วิธีเฉพาะเจาะจง
      คือ  หน่วยงานภาครัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตราตามที่กำหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคากับหน่วยงานของรัฐโดยตรง มีขั้นตอนดังนี้
          3.1  เมือเห็นชอบรายงานขอซื้อขอจ้างแล้ว  ให้คณะกรรมการจัดซื้อ/จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงดำเนินการจัดทำหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขยื่นข้อเสนอหรือเข้าร่วมต่อรองราคา
          3.2  การเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐโดยให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
          (ก)  กรณีตามมาตรา 56(2) (ก) (กรณีวิธีประกาศเชิญชวนคัดเลือกไม่ได้ผล) ให้สืบราคาจากผู้ประกอบการที่มีอาชีพหรือรับจ้างนั้นโดยตรง และจากผู้ยื่นข้อเสนอในการใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือกซึ่งยกเลิกไป (ถ้ามี)
          (ข)  กรณีตามมาตรา 56(2) (ค) (ง) (กรณีมีผู้ประกอบการายเดียวหรือกรณีฉุกเฉิน)ให้เชิญผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างนั้นโดยตรง มายื่นข้อเสนอ
          (ค)  กรณีตามมาตรา 56(2) (จ) (กรณีต้องซื้อหรือจ้างเพิ่มจากรายเดิม) ให้เจรจากับผู้ประกอบการรายเดิมตามสัญญาหรือข้อตกลงซึ่งยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาส่งมอบ  เพื่อขอให้มีการซื้อหรือจ้างตามรายละเอียด และราคาที่ต่ำกว่าหรือราคาเดิม โดยคำนึงถึงราคาต่อหน่วยตามสัญญาเดิม (ถ้ามี) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อหน่วยงานของรัฐ
          (ง) กรณีตามาตรา 56(2) (ฉ) (กรณีพัสดุขายทอดตลาด) ให้ดำเนินการโดยเจรจาตกลงราคา
          (จ)  กรณีตามมาตรา 56 (2) (ข) (กรณีซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ให้เชิญเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างโดยตรงมาเสนอราคา (ข้อ 78)
          3.3  จัดทำรายงานผลการพิจารณาเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ (ข้อ 78)
          3.4  กรณีตามมาตรา 56 (2) (ข) (วงเงินไม่เกิน 5 แสน) ให้เจ้าหน้าที่เจรจาตกลงกับผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างนั้นโดยตรง แล้วให้ซื้อหรือจ้างภายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสำหรับกรณีวงเงินไม่เกิน 5 แสน และมีความจำเป็นเร่งด่วน ไม่อาจคาดหมายได้และไม่อาจดำเนินการตามปกติได้ทัน ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นดำเนินการไปก่อนแล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ และเมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแล้วให้ถือว่ารายงานดังกล่าวเป็นหลักฐานการตรวจรับโดยอนุโลม (ข้อ79)
          3.5  เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณา และผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้างแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลาง กำหนดและให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนั้น (ข้อ81)
 
 
 
  1. การวิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี (ที่ผ่านมา)
5.1  นำข้อมูลจากแบบสรุปผลการจัดหาพัสดุในแต่ละเดือน (แบบ สขร.1) มาวิเคราะห์ผลการจัดซื้อประจำปีที่ผ่านมา โดยนำเสนอข้อมูลและมีการรายงานเสนอต่อสาธารณสุขอำเภอแก่งหางแมวมีรายละเอียดดังนี้
       5.1.1  ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ประกอบด้วย งบประมาณภาพรวมของหน่วยงานโดยจำแนกเป็นรายหมวด แสดงให้เห็นในหมวดรายการที่จัดซื้อจัดจ้าง และมีการเปรียบเทียบให้เห็นสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละประเภท มีการเปรียบเทียบกับงบประมาณตามแผนที่ตั้งไว้  และที่ใช้จ่ายจริงในแต่ละรายการ
5.2  จัดทำรายการวิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีที่ผ่านมา ที่ได้จากการวิเคราะห์ตามข้อ 5.1 จัดทำเป็นรูปเล่ม  โดยวิเคราะห์ครอบคลุม 5 องค์ประกอบ ได้แก่
       1)  รายงานสรุปผลการจัดซื้อจัดจ้าง
       2)  การวิเคราะห์ความเสี่ยง
       3)  การวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค/ข้อจำกัด
       4)  การวิเคราะห์ความสามารถในการประหยัดงบประมาณ
       5)  แนวทางแก้ไขการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง อันนำไปสู่การปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณถัดไป
5.3  สาธารณสุขอำเภอแก่งหางแมว สั่งการและอนุมัติให้นำรายงานการวิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีที่ผ่านมา เผยแพร่ในเว็บไซต์โรงพยาบาล และมีแบบฟอร์มการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์
  1. การบันทึกรายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง
6.1  มีการจัดทำแบบสรุปผลการจัดหาพัสดุแต่ละรอบเดือน (แบบ สขร.1) ตามประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เรื่องกำหนดข้อมูลข่าวสารตามเกณฑ์มาตรฐานความโปร่งใสและตัวชี้วัดความโปร่งใสของหน่วยงานของรัฐเป็นข้อมูลข่าวสารที่ต้องจัดไว้ให้ประชาชนตรวจดูได้ตามาตรา 9 วรรคหนึ่ง (8) แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ข้อ 1 (5)
6.2  เนื้อหาที่แสดงถึงการเผยแพร่ข้อมูลที่บันทึกรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างครอบคลุมทุกรายการตามที่ระบุในแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี ตามแบบสรุปผลการจัดหาพัสดุในแต่ละรอบเดือน (แบบ สขร.1) ประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้
       (1)  ชื่อรายการที่จัดซื้อจัดจ้าง
       (2)  วงเงินงบประมาณ
       (3)  ราคากลาง
       (4)  วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง
       (5)  ผู้เสนอราคาและราคาที่เสนอ
       (6)  ผู้ได้รับการคัดเลือกและราคาที่ตกลงซื้อหรือจ้าง
       (7)  เหตุผลที่คัดเลือกโดยสรุป
       (8)  เลขที่และวันที่ของสัญญาหรือข้อตกลงในการซื้อหรือจ้าง
6.3  สาธารณสุขอำเภอแก่งหางแมว สั่งการและอนุมัติเผยแพร่ในเว็บไซต์โรงพยาบาลและมีแบบฟอร์มการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์
 
 
 
 
  1. การกำหนดมาตรการ กลไก  การวางระบบในการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง
7.1  สาธารณสุขอำเภอออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติอย่างเป็นทางการ
7.2  เผยแพร่แนวทางการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ในเว็บไซต์โรงพยาบาล และมีแบบฟอร์มการขออนุญาตเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์
7.3  มีการรายงานผลการกำกับติดตามการปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ใน 2 ไตรมาส ได้แก่ ไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 4 และสั่งการอนุมัติเผยแพร่ในเว็บไซต์โรงพยาบาล
                             ประกาศ  ณ  วันที่    27  เดือนธันวาคม  พ.ศ.2561
 
                  
                                         (นายสมคิด  ตันประวัติ)
                                      สาธารณสุขอำเภอแก่งหางแมว