สัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนภาคใต้ครั้งที่ 5

สัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนภาคใต้ครั้งที่ 5
 

สัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนภาคใต้ครั้งที่ 5

          วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่โรงแรมโนโวเทลภูเก็ตโภคีธราอำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์รอดเรืองณหนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานเปิดงาน สัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนนภาคใต้ครั้งที่ 5 ” พลังชุมชนเพื่อถนนปลอดภัย (community for road Safety) โดยมีนาย ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต ธีระพล ทิพย์เจริญรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8นาง อรชร อัฐทวีลาภ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม

          นางอรชร กล่าวว่า ด้วยแผนงานสนับสนุน การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัดภาคใต้(สอจร.ภาคใต้) ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด(สอจร) กำหนดจัดสัมมนาวิชาการความปลอดภัยทางถนนภาคใต้ครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด”พลังชุมชนเพื่อถนนปลอดภัย (communiy for road Safety) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดรูปแบบในการทำงานด้านการป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่มีประสิทธิภาพเกิดจากการทำงาน ที่เป็นนวัตกรรม ในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจากผลงานวิชาการและเป็นแนวทางให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถนำไปใช้ ในชีวิตได้จริงตลอดจนเป็นการ กระตุ้นและสร้างความตื่นตัวของชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนและเกิดความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐเอกชนและภาคประชาชนในการบูรณาการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนมากขึ้น การสัมมนาในครั้งนี้มีภาคีเครือข่ายเข้าร่วมจาก 14 จังหวัดภาคใต้รวมทั้งสิ้น 219 คนประกอบด้วยเครือข่าย ด้านสาธารณสุข(สสจ./รพ./สสอ./รพ.สต.) ตำรวจกรมการปกครองขนส่งแขวงทางหลวงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ศูนย์ ปภ.เขต/ปภ./ปภ.สาขา) สถาบันศึกษา(ครู/เยาวชน) องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นประชาสัมพันธ์สื่อมวลชนสถานประกอบการเอกชนประกันภัยและสมาคมมูลนิธิต่างๆ

          นายสุพจน์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องของอุบัติภัย บนท้องถนนเป็นปัญหาสำคัญของทุกประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญอยู่ทุกปีมีการประมาณการกันว่ามีคนมากกว่า 1.2 ล้านคนเสียชีวิต และบาดเจ็บหรือพิการอีกว่า 50 ล้านคนทั่วโลกสำหรับประเทศไทยเองเสียชีวิตปีละกว่า 20,000 คนสำหรับประเทศไทยแม้จะมีความพยายามทำงานกันมาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มของการบาดเจ็บที่ลดลงแต่การเสียชีวิตและพิการยังคงที่และความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วงและถ้าเป็นช่วงเทศกาลคือเทศกาลสงกรานต์เทศกาลปีใหม่ยอดเสียชีวิตต่อวันจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 2 เท่าและที่สำคัญ 1 ใน 3 ของผู้ที่เสียชีวิตเป็นแกนหลักในการดูแลและหารายได้ให้แก่ครอบครัวซึ่งการใช้พลังชุมชนมามีส่วนร่วมในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป