สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
1. สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
1.1 ลักษณะที่ตั้งของเทศบาลตำบลกุสุมาลย์
เทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดสกลนคร ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ตามถนนสาย สกลนคร-นครพนม มีเนื้อที่รวมประมาณ 6 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่หมู่บ้านกุสุมาลย์ หมู่ที่ 1, 6, 8, 10 ของตำบลกุสุมาลย์ โดยมีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ใกล้เคียง ดังต่อไปนี้
ทิศเหนือ ตั้งแต่หลักเขตที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยร่องโพธิ์ฝั่งตะวันออก ติดกับพื้นที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลนาโพธิ์ หมู่ที่ 1 เลียบริมห้วยร่องโพธิ์ บรรจบริมห้วยสะเภอฝั่งใต้ ตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือถึงหลักเขตที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2028 ตอนกุสุมาลย์– ท่าอุเทน ฟากตะวันออก ตรงกิโลเมตรที่ 1 ติดกับพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 10 นอกเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ จากหลักเขตที่ 2 ตรงไปทางทิศตะวันออกในแนวตั้งฉากกับทางหลวงจังหวัด หมายเลข 2028 ตอนกุสุมาลย์ - ท่าอุเทน ถึงหลักเขตที่ 3 ซึ่งห่างจากหลักเขตที่ 2 ระยะทาง 510 เมตร มีอาณาเขตติดกับพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 10
ทิศใต้ ตั้งแต่หลักเขตที่ 5 เลียบริมห้วยแดง ติดกับแนวพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 9 ทางไปบ้านนาล้อมฝั่งเหนือเป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกตัดผ่านถนนราษฎร์บำรุงหัวโค้งป้ายทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตรงถึงหลักเขตที่ 6 ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยร่องโพธิ์ ซึ่งมีอาณาเขตติดกับบ้านโนนหอมและบ้านกกส้มโฮง หมู่ที่ 11 พื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศตะวันออก ตั้งแต่หลักเขตที่ 3 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับพื้นที่เขต องค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 10 นอกเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ตัดผ่านถนนเทศบาล (ใบแสน) เป็นเส้นตรงไปถึง หลักเขตที่ 4 ซึ่งตั้งอยู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ตอนสกลนคร-นครพนม ฟากใต้ตอน กิโลเมตรที่ 190 และอีกประมาณ 500 เมตร ถึงหลักเขตที่ 4 ซึ่งตรงกับหมุดหลักเขตที่ดินฝั่งทิศตะวันออกของสำนักงานเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ตั้งฉากกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ถึงหลักเขตที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยแดงฝั่งเหนือ มีอาณาเขตติดกับเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 9 ทางไปบ้านนาล้อม
ทิศตะวันตก จากหลักเขตที่ 6 เลียบริมห้วยร่องโพธิ์ฝั่งตะวันออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถึงหลักเขตที่ 7 ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบกับริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ตอนสกลนคร-นครพนม เลียบริมห้วยร่องโพธิ์ ทิศตะวันออกจนถึงหลักเขตที่ 1 มีอาณาเขตติดเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ หมู่ที่ 1
1.2 ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสลับดอน บริเวณที่ราบจะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ สภาพดินเป็นดินปนหินลูกรัง ในฤดูแล้งจะขาดแคลนน้ำมาก สภาพป่าไม้เป็นป่าโปร่ง มีไม้เบญจพรรณเหมาะสำหรับการหาของป่า
1.3 ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของอำเภอกุสุมาลย์ โดยทั่วไปฤดูร้อนจะร้อนอบอ้าว ฤดูฝนจะมีฝนตกชุกฤดูหนาวอากาศค่อนข้างหนาวเนื่องจากมีพื้นที่ป่าไม้หนาแน่น โดยมี 3 ฤดู ดังนี้
1.3.1 ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งอากาศจะร้อนอบอ้าวมากในช่วงเดือนเมษายน
1.3.2 ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี ฝนจะตกชุกในช่วงเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม
1.3.3 ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์อากาศจะหนาวจัดในช่วงเดือนธันวาคมและเดือนมกราคมเนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
1.4 ลักษณะของดิน
ลักษณะของดินเป็นดินที่มีลูกรังปะปน
1.5 ลักษณะของแหล่งน้ำ
ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์มีแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรดังนี้
1.6 ลักษณะของป่าไม้
ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์มีป่าไม้ชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ 1 แห่ง คือ ดอนเจ้าปู่มเหศักดิ์ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 เขตชุมชนมเหศักดิ์รักษา เส้นทางไปบ้านโนนหอม
2. ด้านการเมืองการปกครอง
2.1 เขตการปกครอง
อาณาเขตติดต่อ : ทิศเหนือ ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์
และองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศใต้ ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศตะวันออก ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศตะวันตก ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์
พื้นที่ : เทศบาลตำบลกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร มีพื้นที่ความรับผิดชอบ 6 ตารางกิโลเมตร
ครอบคลุมพื้นที่บ้านกุสุมาลย์ 4 หมู่บ้าน โดยแยกเป็นจำนวนครัวเรือน ดังนี้
จำนวนครัวเรือนแยกตามหมู่บ้าน
ที่มา : สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ เดือนตุลาคม 2559
2.2 การเลือกตั้ง
ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาจำนวน 3,059 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 2,163 คน คิดเป็นร้อยละ 70.70 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รายละเอียด ดังนี้
3. ประชากร
3.1 ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ปัจจุบันในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ มีประชากรทั้ง 4,153 คน แยกเป็น เพศชาย จำนวน 1,988 คน เพศหญิง จำนวน 2,165 คน ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ยต่อพื้นที่เท่ากับ 693 คน ต่อตารางกิโลเมตร
จำนวนประชากรของเทศบาลตำบลกุสุมาลย์แยกตามเพศ
ที่มา : สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ เดือนตุลาคม 2559
3.2 ช่วงอายุและจำนวนประชากร
ที่มา : สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ เดือนตุลาคม 2559
4. สภาพทางสังคม
4.1 การศึกษา โรงเรียนประถมศึกษา 1 แห่ง โรงเรียนมัธยมศึกษา 1 แห่ง อยู่ในความดูแลของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร (กศจ.สกลนคร) กระทรวงศึกษาธิการ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัยเตาะแตะ 1 แห่ง อยู่ในการดูแลของเทศบาลตำบลกุสุมาลย์
4.2 สาธารณสุข
ในเขตเทศบาล มีสถานที่ให้บริการด้านสาธารณสุข ดังนี้
4.3 อาชญากรรม
4.4 การสังคมสงเคราะห์
5. ระบบบริการพื้นฐาน
5.1 การคมนาคมขนส่ง ภายในเขตเทศบาลตั้งแต่เยื้องหน้าที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์จนถึงสะพานข้ามลำห้วยสะเภอเป็นถนน 8 ช่องจราจร ทำให้การจราจรในช่วงนี้ได้รับความสะดวกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นชุมชนไม่หนาแน่น ปัญหาการจราจรจึงมีน้อย และยังไม่มีสัญญาณไฟจราจรตามแยกสำคัญต่างๆ ในด้านการขนส่งผู้โดยสาร มีรถยนต์โดยสารประจำทาง ดังนี้
- สายนครพนม-กรุงเทพฯ
- สายนครพนม – เชียงราย
- สายนครพนม – เชียงใหม่
- สายนครพนม - อุดรธานี
- สายนครพนม - ขอนแก่น
- สายนครพนม – นครศรีธรรมราช
- สายนครพนม - ระยอง
วิ่งผ่านเส้นทางสายหลักหมายเลข 22 สกลนคร - นครพนม เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากยังไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสารประจำทาง ทำให้การรับส่งผู้โดยสารยังไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
5.2 การไฟฟ้า ประชากรในพื้นที่เขตเทศบาลใช้บริการจากการไฟฟ้าส่วนส่วนภูมิภาค อำเภอกุสุมาลย์
5.3 การประปา ประชากรในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ใช้บริการน้ำประปา จากการประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานประปาสกลนครหน่วยบริการกุสุมาลย์
5.4 โทรศัพท์ ชุมสายโทรศัพท์พื้นฐาน 1 แห่ง สถานีเครือข่ายโทรศัพท์ของเอกชน จำนวน 3 แห่ง
5.5 ไปรษณีย์/การสื่อสาร/การขนส่งวัสดุ ครุภัณฑ์ มีที่ทำการไปรษณีย์ 1 แห่ง
6. ระบบเศรษฐกิจ
6.1 การเกษตร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการทำนา ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และหาของป่า ในปัจจุบันประชาชนได้หันมาให้ความสนใจรวมกลุ่มกันในการทำการเกษตรกรรม
6.2 การประมง ประชาชนในเขตเทศบาลมีสถานที่ในการทำการประมงขนาดเล็ก 2 แห่งได้แก่ ห้วยสะเภอ และห้วยร่องโพธิ์
6.3 การปศุสัตว์ ในเขตเทศบาลมีประชาชนที่เลี้ยงสัตว์จำนวนมาก และมีจัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาล
6.4 การบริการ
6.1 โรงแรม/รีสอร์ท 1 แห่ง
6.2 ปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง
6.5 การท่องเที่ยว
ศูนย์วัฒนธรรมไทโส้ ตั้งอยู่บริเวณศูนย์ราชการอำเภอกุสุมาลย์ เป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมวัตถุโบราณล้ำค่าทางวัฒนธรรม เครื่องใช้ไม้สอย ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของชาวโส้ เช่น ไทยโบราณ ซึ่งใช้สำหรับบรรจุกระดูกบรรพบุรุษอุยยะ (สำหรับใส่สัมภาระของทาสเพื่อเดินทางตามหลังเจ้านายเวลาอพยพ) เครื่องแต่งกายพร้อมพระแสงดาบของพระอรัญอาสาผู้สร้างเมืองกุสุมาลย์และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้มีอยู่ไม่ต่ำกว่า 200-300 ปีมาแล้ว ชาวไทโส้เป็นพวกที่อพยพมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2382 ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเขตอำเภอกุสุมาลย์ มีภาษาพูด การแต่งกาย ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีของตนเอง ชอบใช้ชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆ เชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์และผีบรรพบุรุษ
6.6 อุตสาหกรรม ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์มีโรงสีข้าว จำนวน 8 แห่ง
6.7 การพาณิชย์/กลุ่มอาชีพ
6.8 แรงงาน ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ส่วนใหญ่เป็นแรงการภาคการเกษตร พบมากในฤดูการทำนา เช่น รับจ้างดำนา รับจ้างเกี่ยวข้าว
7. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม
7.1 การนับถือศาสนา
ประชาชนร้อยละ 99.5 นับถือศาสนาพุทธ ส่วนที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ ้านโนนหอม ๑ แห่ง คือ ดอนเจ้าปู่มเหศักดิ์ เนื้อที่ประมาณ ๓๐ ไร่ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ ๑ เขตชุมชนมเหศักมีวัด/สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา จำนวน 4 แห่ง ดังนี้
7.2 ประเพณีและงานประจำปี
ในเขตเทศบาลฯ มีเทศกาลและประเพณีวัฒนธรรมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ดังนี้
7.2.1 เทศกาลโส้รำลึก เป็นงานประจำปีของชาวโส้ จัดขึ้นในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์ มีการละเล่นโส้ทั่งบั้ง ซึ่งจะเริ่มในตอนสายของวันขึ้น 4 ค่ำ ตามประเพณีความเชื่อที่สืบทอดมาแต่อดีต พิธีเยาคนป่วยลงสนามหรือแซงสนาม และพิธีเจี้ยะสลา มาประยุกต์รวมกันให้เป็นรูปขบวนที่สวยงาม เป็นจังหวะที่สอดคล้องกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่ดีด สี ตี เป่า เข้าร่วมกับท่วงท่ารำของสาวโส้ที่มาร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก พิธีทั้ง 3 ที่กล่าวมาข้างต้นจะทำเล่น ๆ ไม่ได้ เพราะเป็นพิธีที่เกี่ยวกับผีบรรพบุรุษของชาวโส้ ซึ่งถือว่าเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ยังมีการละเล่นพื้นเมืองอื่น เช่น การเส็งกลอง คือการตีกลองแข่งขันกันว่าใครจะเสียงดัง การเส็งกลองเป็นศิลปะการละเล่นอย่างหนึ่งของชาวโส้ที่มีมาแต่โบราณ ในสมัยก่อนชาวโส้มีการเส็งกลองเวลามีงานบุญตามหมู่บ้านต่างๆ และการเล่นลายกลองซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูง ในการตีกลองต้องใช้ความสามารถอย่างสูง และเล่นกันเป็นหมู่คณะ ซึ่งคณะที่เล่นลายกลองจะแต่งตัวดังนี้ คนเล่นลายกลองและคนเล่นลายมวย จะนุ่งผ้าแดงแบบโจงกระเบน แต่นุ่งให้รัดกุม ไม่สวมเสื้อแต่คาดผ้าแดงที่หัว ตามตัวเขียนด้วยลายหรือสักลายแบบคนโบราณ ส่วนคนอื่นๆ วน 3 จะนุ่งผ้าโสร่งใส่เสื้อดำหม้อฮ่อมแบบชาวโส้คาดเอวด้วยผ้าขิด นอกจากนี้ในบริเวณงานจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านนานาชนิด ให้ผู้ไปเที่ยวชมได้ซื้อในราคาถูก เส้นทางการคมนาคมสะดวกรถยนต์สามารถเข้าถึงบริเวณงาน ซึ่งห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 40 กิโลเมตร
7.2.2 บุญเผวสหรือบุญมหาชาติ เป็นบุญประจำปีของชาวไทโส้ที่นิยมทำกันในเดือนสี่ ดังมีคำพังเพยว่า "เดือนสามด้อยเจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ เดือนสี่ด้อยจัวน้อยเทศน์มะที" (คำว่า เจ้าหัว หมายถึงพระภิกษุ จัว หมายถึง สามเณร มะที หมายถึง มัทรี) ทางบ้านและวัดจะมีการปรึกษาหารือตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน ทางชาวบ้านจะจัดอาหารการกิน เช่น ขนม ข้าวต้ม และอาหารคาวต่างๆ สำหรับถวายพระภิกษุ -สามเณร และเลี้ยงแขกเลี้ยงคนที่มาร่วมงานและจัดหาปัจจัยไทยทานสำหรับใส่กัณฑ์เทศน์เพื่อถวายพระภิกษุ-สามเณร ส่วนทางวัดก็แบ่งหนังสือออกเป็นกัณฑ์ๆ หนังสือผูกหนึ่งอาจแบ่งเป็นหลายกัณฑ์ก็ได้เพื่อให้ชาวบ้านได้รับกัณฑ์โดยทั่วถึงกัน มอบหนังสือให้พระภิกษุ-สามเณรในวัดนั้น เพื่อเตรียมไว้เทศน์ นอกนั้นจะมีการนิมนต์พระจากวัดอื่นมาเทศน์ โดยจะมีฎีกาไปนิมนต์พร้อมบอกชื่อกัณฑ์และบอกเชิญชวนชาวบ้านที่วัดนั้นตั้งอยู่มาร่วมทำบุญด้วย
7.2.3 ประเพณีเทศกาลสงกรานต์ ประเพณีสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทโส้ ที่ทางเทศบาลร่วมกับชุมชนจัดขึ้น ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ เป็นวันแห่งความเอื้ออาทร ความรัก ความผูกพัน ที่มีต่อกันทั้งครอบครัว ชุมชน สังคม และศาสนา ที่สมาชิกในครอบครัวที่เดินไปทำงานอยู่ในต่างถิ่นได้เดินทางกลับบ้านเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแก่ผู้มีพระคุณ และยังมีพิธีรดน้ำดำหัวให้กับผู้สูงอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
7.2.4 ประเพณีวันวิสาขบูชา วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราวคือ
1) เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติ ที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี
2) เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี หลังจากออกผนวชได้ 6 ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย
3) หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ 45 ปี พระชนมายุได้ 80 พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียนับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง 3 เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 หรือประมาณเดือนพฤษภาคม
ดังนั้น เมื่อถึงวันสำคัญเช่นนี้ ชาวเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ จึงเตรียมพร้อมใจกันนุ่งขาวตลอดทั้งเดือน และได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษโดยการจัดทำโคมบัวบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณของพระองค์ท่านผู้เป็นดวงประทีปของโลก
7.2.5 ประเพณีวันลอยกระทง เทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ได้มีการจัดงานประเพณีวันลอยในช่วงเดือน พฤศจิกายน ของทุกปี ที่บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลกุสุมาลย์ ริมฝั่งลำห้วยสะเภอ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ลอยกระทงตามลำห้วยสะเภอ เพื่อสักการะพระแม่คงคา ที่ชาวไทยถือว่าก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
7.3 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าไทโส้ ซึ่งมีเอกลักษณ์ภาษาพูดคือภาษาโส้ ขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง และมีความเชื่อทางไสยศาสตร์
7.4 สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
8. ทรัพยากรธรรมชาติ
8.1 น้ำ บ่อน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคมี 5 บ่อ ได้แก่ ส่างจี่ ส่างพอก และส่างป่า อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ส่างมะขามเตี้ยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ส่างร่องนา อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 สระน้ำที่ใช้ในการเกษตร เลี้ยงสัตว์ มี 3 แห่ง อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ได้แก่ สระหลวง สระส่างจี่ สระวัดราษฎร์ ลำห้วยที่ใช้ในการเกษตร เลี้ยงสัตว์ หาปลา มี 2 แห่งได้แก่ ห้วยสะเภอ และห้วยร่องโพธิ์
8.2 ป่าไม้ มีป่าไม้ชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ 1 แห่ง คือ ดอนเจ้าปู่มเหศักดิ์ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 เขตชุมชนมเหศักดิ์รักษา เส้นทางไปบ้านโนนหอม
1.1 ลักษณะที่ตั้งของเทศบาลตำบลกุสุมาลย์
เทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดสกลนคร ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ตามถนนสาย สกลนคร-นครพนม มีเนื้อที่รวมประมาณ 6 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่หมู่บ้านกุสุมาลย์ หมู่ที่ 1, 6, 8, 10 ของตำบลกุสุมาลย์ โดยมีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ใกล้เคียง ดังต่อไปนี้
ทิศเหนือ ตั้งแต่หลักเขตที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยร่องโพธิ์ฝั่งตะวันออก ติดกับพื้นที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลนาโพธิ์ หมู่ที่ 1 เลียบริมห้วยร่องโพธิ์ บรรจบริมห้วยสะเภอฝั่งใต้ ตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือถึงหลักเขตที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2028 ตอนกุสุมาลย์– ท่าอุเทน ฟากตะวันออก ตรงกิโลเมตรที่ 1 ติดกับพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 10 นอกเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ จากหลักเขตที่ 2 ตรงไปทางทิศตะวันออกในแนวตั้งฉากกับทางหลวงจังหวัด หมายเลข 2028 ตอนกุสุมาลย์ - ท่าอุเทน ถึงหลักเขตที่ 3 ซึ่งห่างจากหลักเขตที่ 2 ระยะทาง 510 เมตร มีอาณาเขตติดกับพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 10
ทิศใต้ ตั้งแต่หลักเขตที่ 5 เลียบริมห้วยแดง ติดกับแนวพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 9 ทางไปบ้านนาล้อมฝั่งเหนือเป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกตัดผ่านถนนราษฎร์บำรุงหัวโค้งป้ายทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตรงถึงหลักเขตที่ 6 ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยร่องโพธิ์ ซึ่งมีอาณาเขตติดกับบ้านโนนหอมและบ้านกกส้มโฮง หมู่ที่ 11 พื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศตะวันออก ตั้งแต่หลักเขตที่ 3 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับพื้นที่เขต องค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 10 นอกเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ตัดผ่านถนนเทศบาล (ใบแสน) เป็นเส้นตรงไปถึง หลักเขตที่ 4 ซึ่งตั้งอยู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ตอนสกลนคร-นครพนม ฟากใต้ตอน กิโลเมตรที่ 190 และอีกประมาณ 500 เมตร ถึงหลักเขตที่ 4 ซึ่งตรงกับหมุดหลักเขตที่ดินฝั่งทิศตะวันออกของสำนักงานเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ตั้งฉากกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ถึงหลักเขตที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ริมห้วยแดงฝั่งเหนือ มีอาณาเขตติดกับเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์ หมู่ที่ 9 ทางไปบ้านนาล้อม
ทิศตะวันตก จากหลักเขตที่ 6 เลียบริมห้วยร่องโพธิ์ฝั่งตะวันออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถึงหลักเขตที่ 7 ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบกับริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ตอนสกลนคร-นครพนม เลียบริมห้วยร่องโพธิ์ ทิศตะวันออกจนถึงหลักเขตที่ 1 มีอาณาเขตติดเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ หมู่ที่ 1
1.2 ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสลับดอน บริเวณที่ราบจะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ สภาพดินเป็นดินปนหินลูกรัง ในฤดูแล้งจะขาดแคลนน้ำมาก สภาพป่าไม้เป็นป่าโปร่ง มีไม้เบญจพรรณเหมาะสำหรับการหาของป่า
1.3 ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของอำเภอกุสุมาลย์ โดยทั่วไปฤดูร้อนจะร้อนอบอ้าว ฤดูฝนจะมีฝนตกชุกฤดูหนาวอากาศค่อนข้างหนาวเนื่องจากมีพื้นที่ป่าไม้หนาแน่น โดยมี 3 ฤดู ดังนี้
1.3.1 ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งอากาศจะร้อนอบอ้าวมากในช่วงเดือนเมษายน
1.3.2 ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี ฝนจะตกชุกในช่วงเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม
1.3.3 ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์อากาศจะหนาวจัดในช่วงเดือนธันวาคมและเดือนมกราคมเนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
1.4 ลักษณะของดิน
ลักษณะของดินเป็นดินที่มีลูกรังปะปน
1.5 ลักษณะของแหล่งน้ำ
ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์มีแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรดังนี้
แหล่งน้ำ | ชื่อ | ที่ตั้ง |
บ่อน้ำ 3 แห่ง | บ่อส่างจี่ บ่อส่างพอก และบ่อส่างป่า | ม. 1 |
บ่อน้ำ 1 แห่ง | บ่อส่างมะขามเตี้ย | ม.6 |
บ่อน้ำ 1 แห่ง | บ่อส่างร่องนา | ม.8 |
สระน้ำ 3 แห่ง | สระหลวง ,สระส่างจี่,สระวัดราษฎร์ | ม.1 |
ลำห้วย 4 แห่ง | ห้วยสะเภอ,ห้วยร่องโพธิ์,ห้วยร่องนา,ห้วยบง | ม.1 , ม.8 |
1.6 ลักษณะของป่าไม้
ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์มีป่าไม้ชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ 1 แห่ง คือ ดอนเจ้าปู่มเหศักดิ์ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 เขตชุมชนมเหศักดิ์รักษา เส้นทางไปบ้านโนนหอม
2. ด้านการเมืองการปกครอง
2.1 เขตการปกครอง
อาณาเขตติดต่อ : ทิศเหนือ ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์
และองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศใต้ ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศตะวันออก ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลกุสุมาลย์
ทิศตะวันตก ติดต่อ เขตองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์
พื้นที่ : เทศบาลตำบลกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร มีพื้นที่ความรับผิดชอบ 6 ตารางกิโลเมตร
ครอบคลุมพื้นที่บ้านกุสุมาลย์ 4 หมู่บ้าน โดยแยกเป็นจำนวนครัวเรือน ดังนี้
จำนวนครัวเรือนแยกตามหมู่บ้าน
หมู่ที่ | จำนวนครัวเรือน |
1 | 824 |
6 | 380 |
8 | 290 |
10 | 86 |
รวม | 1,580 |
2.2 การเลือกตั้ง
ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาจำนวน 3,059 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 2,163 คน คิดเป็นร้อยละ 70.70 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รายละเอียด ดังนี้
เขตเลือกตั้ง | ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง(คน) | ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง(คน) | ร้อยละ |
เขต 1 หมู่ 6,8 | 1,540 | 1,086 | 70.52 |
เขต 2 หมู่1,10 | 1,519 | 1,077 | 70.90 |
รวมทุกเขต | 3,059 | 2,163 | 70.70 |
3. ประชากร
3.1 ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ปัจจุบันในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ มีประชากรทั้ง 4,153 คน แยกเป็น เพศชาย จำนวน 1,988 คน เพศหญิง จำนวน 2,165 คน ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ยต่อพื้นที่เท่ากับ 693 คน ต่อตารางกิโลเมตร
จำนวนประชากรของเทศบาลตำบลกุสุมาลย์แยกตามเพศ
หมู่ที่ | เพศชาย (คน) | เพศหญิง (คน) | รวม (คน) |
1 | 825 | 860 | 1,685 |
6 | 559 | 576 | 1,135 |
8 | 412 | 496 | 908 |
10 | 169 | 166 | 335 |
รวม | 1,965 | 2,098 | 4,063 |
ที่มา : สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ เดือนตุลาคม 2559
3.2 ช่วงอายุและจำนวนประชากร
กลุ่มอายุ (ปี) | เพศชาย (คน) | เพศหญิง (คน) | รวม |
แรกเกิด-5 | 134 | 114 | 248 |
6-11 | 162 | 153 | 315 |
12-15 | 106 | 90 | 196 |
16-18 | 86 | 104 | 190 |
19-25 | 198 | 200 | 398 |
26-59 | 1,088 | 1,183 | 2,271 |
มากกว่า 60 | 237 | 308 | 545 |
รวม | 2,011 | 2,152 | 4,163 |
ที่มา : สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ เดือนตุลาคม 2559
4. สภาพทางสังคม
4.1 การศึกษา โรงเรียนประถมศึกษา 1 แห่ง โรงเรียนมัธยมศึกษา 1 แห่ง อยู่ในความดูแลของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสกลนคร (กศจ.สกลนคร) กระทรวงศึกษาธิการ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัยเตาะแตะ 1 แห่ง อยู่ในการดูแลของเทศบาลตำบลกุสุมาลย์
4.2 สาธารณสุข
ในเขตเทศบาล มีสถานที่ให้บริการด้านสาธารณสุข ดังนี้
สถานที่ให้บริการ | จำนวน | ที่ตั้ง |
1. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ | 1 แห่ง | ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์ |
2. สถานพยาบาลเอกชน/คลีนิค | 3 แห่ง | ถนนนิตโย |
3. ร้านขายยาทั่วไป | 3 แห่ง | ถนนนิตโย |
4. อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน | 10 ชุมชน | ทุกชุมชนในเขตเทศบาล |
4.3 อาชญากรรม
คดีอาชญากรรม ในเขตสถานีภูธรกุสุมาลย์ | พ.ศ. 2558 (คดี) |
พ.ศ. 2559 (คดี) |
คดีอาชญากรรมทั่วไป | 179 | 132 |
คดีจราจร | 58 | 15 |
คดีชันสูตรพลิกศพ | 8 | 13 |
4.4 การสังคมสงเคราะห์
จำนวนผู้ได้รับเบี้ยยังชีพ ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ |
พ.ศ. 2557 (คน) |
พ.ศ. 2558 (คน) |
พ.ศ. 2559 (คน) |
ผู้สูงอายุ | 351 | 369 | 381 |
ผู้พิการ | 58 | 58 | 61 |
ผู้ป่วยเอดส์ | 8 | 8 | 8 |
5. ระบบบริการพื้นฐาน
5.1 การคมนาคมขนส่ง ภายในเขตเทศบาลตั้งแต่เยื้องหน้าที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์จนถึงสะพานข้ามลำห้วยสะเภอเป็นถนน 8 ช่องจราจร ทำให้การจราจรในช่วงนี้ได้รับความสะดวกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นชุมชนไม่หนาแน่น ปัญหาการจราจรจึงมีน้อย และยังไม่มีสัญญาณไฟจราจรตามแยกสำคัญต่างๆ ในด้านการขนส่งผู้โดยสาร มีรถยนต์โดยสารประจำทาง ดังนี้
- สายนครพนม-กรุงเทพฯ
- สายนครพนม – เชียงราย
- สายนครพนม – เชียงใหม่
- สายนครพนม - อุดรธานี
- สายนครพนม - ขอนแก่น
- สายนครพนม – นครศรีธรรมราช
- สายนครพนม - ระยอง
วิ่งผ่านเส้นทางสายหลักหมายเลข 22 สกลนคร - นครพนม เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากยังไม่มีสถานีขนส่งผู้โดยสารประจำทาง ทำให้การรับส่งผู้โดยสารยังไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
5.2 การไฟฟ้า ประชากรในพื้นที่เขตเทศบาลใช้บริการจากการไฟฟ้าส่วนส่วนภูมิภาค อำเภอกุสุมาลย์
5.3 การประปา ประชากรในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ใช้บริการน้ำประปา จากการประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานประปาสกลนครหน่วยบริการกุสุมาลย์
5.4 โทรศัพท์ ชุมสายโทรศัพท์พื้นฐาน 1 แห่ง สถานีเครือข่ายโทรศัพท์ของเอกชน จำนวน 3 แห่ง
5.5 ไปรษณีย์/การสื่อสาร/การขนส่งวัสดุ ครุภัณฑ์ มีที่ทำการไปรษณีย์ 1 แห่ง
6. ระบบเศรษฐกิจ
6.1 การเกษตร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการทำนา ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และหาของป่า ในปัจจุบันประชาชนได้หันมาให้ความสนใจรวมกลุ่มกันในการทำการเกษตรกรรม
6.2 การประมง ประชาชนในเขตเทศบาลมีสถานที่ในการทำการประมงขนาดเล็ก 2 แห่งได้แก่ ห้วยสะเภอ และห้วยร่องโพธิ์
6.3 การปศุสัตว์ ในเขตเทศบาลมีประชาชนที่เลี้ยงสัตว์จำนวนมาก และมีจัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาล
6.4 การบริการ
6.1 โรงแรม/รีสอร์ท 1 แห่ง
6.2 ปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง
6.5 การท่องเที่ยว
ศูนย์วัฒนธรรมไทโส้ ตั้งอยู่บริเวณศูนย์ราชการอำเภอกุสุมาลย์ เป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมวัตถุโบราณล้ำค่าทางวัฒนธรรม เครื่องใช้ไม้สอย ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของชาวโส้ เช่น ไทยโบราณ ซึ่งใช้สำหรับบรรจุกระดูกบรรพบุรุษอุยยะ (สำหรับใส่สัมภาระของทาสเพื่อเดินทางตามหลังเจ้านายเวลาอพยพ) เครื่องแต่งกายพร้อมพระแสงดาบของพระอรัญอาสาผู้สร้างเมืองกุสุมาลย์และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้มีอยู่ไม่ต่ำกว่า 200-300 ปีมาแล้ว ชาวไทโส้เป็นพวกที่อพยพมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2382 ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเขตอำเภอกุสุมาลย์ มีภาษาพูด การแต่งกาย ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีของตนเอง ชอบใช้ชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆ เชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์และผีบรรพบุรุษ
6.6 อุตสาหกรรม ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์มีโรงสีข้าว จำนวน 8 แห่ง
6.7 การพาณิชย์/กลุ่มอาชีพ
ร้านค้าของเบ็ดเตล็ด | 38 แห่ง |
ร้านรับซ่อม-จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ | 11 แห่ง |
ร้านรับซ่อม-จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ | 3 แห่ง |
ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม | 16 แห่ง |
ร้านถ่ายรูป | 1 แห่ง |
ร้านถ่ายเอกสาร | 5 แห่ง |
ร้านเสริมสวย | 10 แห่ง |
ร้านตัดผมชาย | 3 แห่ง |
ร้านจำหน่ายหีบศพ | 1 แห่ง |
ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง | 5 แห่ง |
กิจการโรงแรม/รีสอร์ท | 1 แห่ง |
6.8 แรงงาน ในเขตเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ส่วนใหญ่เป็นแรงการภาคการเกษตร พบมากในฤดูการทำนา เช่น รับจ้างดำนา รับจ้างเกี่ยวข้าว
7. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม
7.1 การนับถือศาสนา
ประชาชนร้อยละ 99.5 นับถือศาสนาพุทธ ส่วนที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ ้านโนนหอม ๑ แห่ง คือ ดอนเจ้าปู่มเหศักดิ์ เนื้อที่ประมาณ ๓๐ ไร่ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ ๑ เขตชุมชนมเหศักมีวัด/สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนา จำนวน 4 แห่ง ดังนี้
วัด | หมู่ที่ | ชุมชน |
1. วัดราษฎร์บำรุง | 1 | ชุมชนราษฎร์พัฒนา |
2. วัดกลาง | 8 | ชุมชนอรัญอาสา |
3. วัดโพนธาราม | 10 | ชุมชนโพนธาราม |
4. วัดสันติกุสุมาลย์ | 6 | ชุมชนน้อยสันติ |
7.2 ประเพณีและงานประจำปี
ในเขตเทศบาลฯ มีเทศกาลและประเพณีวัฒนธรรมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ดังนี้
7.2.1 เทศกาลโส้รำลึก เป็นงานประจำปีของชาวโส้ จัดขึ้นในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์ มีการละเล่นโส้ทั่งบั้ง ซึ่งจะเริ่มในตอนสายของวันขึ้น 4 ค่ำ ตามประเพณีความเชื่อที่สืบทอดมาแต่อดีต พิธีเยาคนป่วยลงสนามหรือแซงสนาม และพิธีเจี้ยะสลา มาประยุกต์รวมกันให้เป็นรูปขบวนที่สวยงาม เป็นจังหวะที่สอดคล้องกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่ดีด สี ตี เป่า เข้าร่วมกับท่วงท่ารำของสาวโส้ที่มาร่วมแสดงเป็นจำนวนมาก พิธีทั้ง 3 ที่กล่าวมาข้างต้นจะทำเล่น ๆ ไม่ได้ เพราะเป็นพิธีที่เกี่ยวกับผีบรรพบุรุษของชาวโส้ ซึ่งถือว่าเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ยังมีการละเล่นพื้นเมืองอื่น เช่น การเส็งกลอง คือการตีกลองแข่งขันกันว่าใครจะเสียงดัง การเส็งกลองเป็นศิลปะการละเล่นอย่างหนึ่งของชาวโส้ที่มีมาแต่โบราณ ในสมัยก่อนชาวโส้มีการเส็งกลองเวลามีงานบุญตามหมู่บ้านต่างๆ และการเล่นลายกลองซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูง ในการตีกลองต้องใช้ความสามารถอย่างสูง และเล่นกันเป็นหมู่คณะ ซึ่งคณะที่เล่นลายกลองจะแต่งตัวดังนี้ คนเล่นลายกลองและคนเล่นลายมวย จะนุ่งผ้าแดงแบบโจงกระเบน แต่นุ่งให้รัดกุม ไม่สวมเสื้อแต่คาดผ้าแดงที่หัว ตามตัวเขียนด้วยลายหรือสักลายแบบคนโบราณ ส่วนคนอื่นๆ วน 3 จะนุ่งผ้าโสร่งใส่เสื้อดำหม้อฮ่อมแบบชาวโส้คาดเอวด้วยผ้าขิด นอกจากนี้ในบริเวณงานจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านนานาชนิด ให้ผู้ไปเที่ยวชมได้ซื้อในราคาถูก เส้นทางการคมนาคมสะดวกรถยนต์สามารถเข้าถึงบริเวณงาน ซึ่งห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 40 กิโลเมตร
7.2.2 บุญเผวสหรือบุญมหาชาติ เป็นบุญประจำปีของชาวไทโส้ที่นิยมทำกันในเดือนสี่ ดังมีคำพังเพยว่า "เดือนสามด้อยเจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ เดือนสี่ด้อยจัวน้อยเทศน์มะที" (คำว่า เจ้าหัว หมายถึงพระภิกษุ จัว หมายถึง สามเณร มะที หมายถึง มัทรี) ทางบ้านและวัดจะมีการปรึกษาหารือตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน ทางชาวบ้านจะจัดอาหารการกิน เช่น ขนม ข้าวต้ม และอาหารคาวต่างๆ สำหรับถวายพระภิกษุ -สามเณร และเลี้ยงแขกเลี้ยงคนที่มาร่วมงานและจัดหาปัจจัยไทยทานสำหรับใส่กัณฑ์เทศน์เพื่อถวายพระภิกษุ-สามเณร ส่วนทางวัดก็แบ่งหนังสือออกเป็นกัณฑ์ๆ หนังสือผูกหนึ่งอาจแบ่งเป็นหลายกัณฑ์ก็ได้เพื่อให้ชาวบ้านได้รับกัณฑ์โดยทั่วถึงกัน มอบหนังสือให้พระภิกษุ-สามเณรในวัดนั้น เพื่อเตรียมไว้เทศน์ นอกนั้นจะมีการนิมนต์พระจากวัดอื่นมาเทศน์ โดยจะมีฎีกาไปนิมนต์พร้อมบอกชื่อกัณฑ์และบอกเชิญชวนชาวบ้านที่วัดนั้นตั้งอยู่มาร่วมทำบุญด้วย
7.2.3 ประเพณีเทศกาลสงกรานต์ ประเพณีสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทโส้ ที่ทางเทศบาลร่วมกับชุมชนจัดขึ้น ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ เป็นวันแห่งความเอื้ออาทร ความรัก ความผูกพัน ที่มีต่อกันทั้งครอบครัว ชุมชน สังคม และศาสนา ที่สมาชิกในครอบครัวที่เดินไปทำงานอยู่ในต่างถิ่นได้เดินทางกลับบ้านเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแก่ผู้มีพระคุณ และยังมีพิธีรดน้ำดำหัวให้กับผู้สูงอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
7.2.4 ประเพณีวันวิสาขบูชา วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง 3 คราวคือ
1) เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติ ที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี
2) เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี หลังจากออกผนวชได้ 6 ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย
3) หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ 45 ปี พระชนมายุได้ 80 พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียนับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง 3 เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 หรือประมาณเดือนพฤษภาคม
ดังนั้น เมื่อถึงวันสำคัญเช่นนี้ ชาวเทศบาลตำบลกุสุมาลย์ จึงเตรียมพร้อมใจกันนุ่งขาวตลอดทั้งเดือน และได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษโดยการจัดทำโคมบัวบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณของพระองค์ท่านผู้เป็นดวงประทีปของโลก
7.2.5 ประเพณีวันลอยกระทง เทศบาลตำบลกุสุมาลย์ ได้มีการจัดงานประเพณีวันลอยในช่วงเดือน พฤศจิกายน ของทุกปี ที่บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลกุสุมาลย์ ริมฝั่งลำห้วยสะเภอ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ลอยกระทงตามลำห้วยสะเภอ เพื่อสักการะพระแม่คงคา ที่ชาวไทยถือว่าก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
7.3 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าไทโส้ ซึ่งมีเอกลักษณ์ภาษาพูดคือภาษาโส้ ขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง และมีความเชื่อทางไสยศาสตร์
7.4 สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
8. ทรัพยากรธรรมชาติ
8.1 น้ำ บ่อน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคมี 5 บ่อ ได้แก่ ส่างจี่ ส่างพอก และส่างป่า อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ส่างมะขามเตี้ยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ส่างร่องนา อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 สระน้ำที่ใช้ในการเกษตร เลี้ยงสัตว์ มี 3 แห่ง อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ได้แก่ สระหลวง สระส่างจี่ สระวัดราษฎร์ ลำห้วยที่ใช้ในการเกษตร เลี้ยงสัตว์ หาปลา มี 2 แห่งได้แก่ ห้วยสะเภอ และห้วยร่องโพธิ์
8.2 ป่าไม้ มีป่าไม้ชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ 1 แห่ง คือ ดอนเจ้าปู่มเหศักดิ์ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 เขตชุมชนมเหศักดิ์รักษา เส้นทางไปบ้านโนนหอม